สธ.อิงข้อมูลทั่วโลกบ่งชี้โควิด-19 ระยะสุดท้าย ไร้ปัญหารับมือ

สธ.อิงข้อมูลทั่วโลกบ่งชี้โควิด-19 ระยะสุดท้าย ไร้ปัญหารับมือ ปรับแผนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น อาจ 6 เดือน -1 ปี‼

.

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุ ประชุม ศบค.วันนี้ จะนำมติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ (21 ก.ย.) เรื่องปรับลดระดับโรคโควิด-19 ให้เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 นี้ จากข้อมูลวิชาการทั่วโลกบ่งชี้ว่า ขณะนี้เป็นช่วงท้ายของการระบาดโรคไม่ได้มีความรุนแรงอีกต่อไป อีกทั้ง ระบบสาธารณสุขไทยสามารถดูแลได้ มีวัคซีน มียา อย่างเพียงพอ เพียงแค่เฝ้าระวัง เพราะโรคอาจจะขึ้นหรือลงอีกก็ได้

.

“สำหรับแผนจัดการวัคซีนโควิด-19 ได้มอบให้กรมควบคุมโรค ทบทวน ข้อมูลวัคซีน ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการป้องกันการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตว่า ณ ปัจจุบันป้องกันได้นานแค่ไหน เพราะที่ผ่านมา เป็นช่วงการระบาดรุนแรง-ปานกลาง จึงให้ฉีดเข็มกระตุ้นทุก 4 เดือน แต่ตอนนี้เป็นระยะท้ายของการระบาด จะขยายเวลาการกระตุ้นเป็น 6 เดือน หรือ 1 ปี ได้หรือไม่ ต้องรอผู้เชี่ยวชาญช่วยกันพิจารณาคาดจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ เพื่อนำมาวางแผนการจัดซื้อวัคซีนโควิดสำหรับปี 2566 แต่สำหรับวัคซีนของปี 2565 นี้ ตามแผนจัดซื้อวัคซีนตามจำนวนเดิมแต่อาจปรับเปลี่ยนจากวัคซีนเป็นยาหรือ LAAB แทน” นพ.เกียรติภูมิ ระบุ

.

ส่วน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ในช่วงแรกที่ประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย ศบค.จะยกเลิกหรือไม่ แล้วแต่ ศบค.พิจารณา แต่คาดว่า ยังมีความจำเป็นต้องใช้ในการดูแลด้านอื่นๆ เช่น ด้านสังคมไปอีกระยะหนึ่ง

#realnewsthailand #ข่าวจริงประเทศไทย #โควิด #วัคซีน #เข็มกระตุ้น #กระทรวงสาธารณสุข


image รูปภาพ
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar